เมื่อผีเข้าโยมแม่-ที่นี่มีคำตอบ

เมื่อผีเข้าใครมักจะมีอาการอย่างนี้จริงหรือ? สายตาจะหลบ หันหน้าหนี ไม่กล้าสบตาโดยเฉพาะกับผู้มีศีลธรรม นัยน์ตาแข็งทื่อไม่กะพริบตาบ่อยเหมือนมนุษย์ปกติ การพูดคุยจะไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดจิตวิญญาณของคนเดิม แต่เป็นของคนใหม่

บทความ Articles > ที่นี่มีคำตอบ Answer by Law of Kamma > เรื่องผีๆ
[ 26 ต.ค. 2553 ] - [ : 18264 ]
เรื่องผีๆ
เมื่อผีเข้าโยมแม่
 
คำถามจากทางบ้าน:
            โยมแม่อยู่ที่ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ โยมแม่ป่วยหนัก โยมพ่อบอกว่า เหมือนถูกผีเข้า เป็นมา ๕-๗ วันแล้ว กระผมจึงบอกโยมพ่อว่า ให้เอาพระของขวัญจากวัดพระธรรมกาย เป็นพระผงรุ่นเททองคำหลวงปู่วัดปากน้ำฯ คล้องคอไว้ แล้วจะไปเยี่ยม พอกระผมไปถึงบ้าน เห็นโยมแม่นอนหันหลังให้ โยมพ่อบอกว่า ตอนป่วยพาไปหาหมอ หมอเขาก็บอกว่าไม่ป่วย แต่ทานข้าวไม่ได้ ไม่มีแรง พูดบ่นเรื่อยเปื่อยไปทั่ว สงสัยถูกผีเข้า กระผมก็คุยกับโยมป้าที่อยู่ด้วยกันในตอนนั้นว่า ถ้าผีเข้าจะมีอาการอย่างนี้ (ตามความคิดเห็นของเจ้าของ Case Study) คือ
 
๑.  สายตาจะหลบ หันหน้าหนี ไม่กล้าสบตาโดยเฉพาะกับผู้มีศีลธรรม
๒.  นัยน์ตาจะแข็งทื่อ ไม่มีการกะพริบตาบ่อยเหมือนมนุษย์ปกติ
๓.  ความรู้สึกนึกคิด การพูดคุยจะไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดจิตวิญญาณของคนเดิม แต่เป็นของคนใหม่
 
            พอพูดจบ โยมแม่พูดขึ้นว่า พวกนี้คุยอะไรกันน่ารำคาญ ผมก็คิดในใจว่า ปกติโยมแม่เป็นคนหูตึง พูดเบาๆ ทำไมได้ยิน โยมแม่ก็บอกว่า พูดเบาๆ ก็ได้ยินหมดแหละ กระผมจึงมั่นใจว่า ผีเข้าโยมแม่จริง
 
            สมัยเด็กๆ กระผมเห็นเวลาหมอผีปราบผีต้องถามชื่อผีก่อน ถ้าผีบอก แสดงว่าผีกลัว ถ้าไม่บอกแสดงว่าผีไม่กลัว กระผมจึงเรียกโยมแม่ที่นอนหันหลังมาถามว่า ชื่ออะไร เป็นใคร มาจากไหน ผีเข้าสิงพูดว่า เขาไม่ให้บอก แล้วก็หันหน้าหนี กระผมก็เรียกให้หันหน้ามาใหม่ ผีบอกว่า ถ้าแน่จริงก็มาสู้กันสิ กระผมตอบทันทีว่า O.K. แล้วก็เอาเหรียญปราบมารให้ดู ให้ดูรูปหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กระผมพูดว่า ดูให้ชัดๆ ว่าเป็นใคร ปรากฏว่า โยมแม่ไม่ดู หลับตาปี๋ แล้วพูดว่า แสงเข้าตา มองไม่เห็น ตาจะบอด แล้วก็หันหน้าหนี นอนเงียบไม่พูดไปเลย ไม่สนใจใครทั้งสิ้น กระผมก็ให้ดูเหรียญอีก จนผีกลัวมาก แต่ผียังไม่ยอมออก
 
            กระผมถามว่า รู้จักพระไหม หมายถึงตัวกระผมเองซึ่งเป็นพระลูกชาย ผีบอกว่า ไม่รู้จัก แสดงว่าคนพูดไม่ใช่โยมแม่แน่แล้ว ผีบอกว่า ถ้าแน่ก็มาสู้กันสิ กระผมก็เลยบอกว่า พระไม่กลัวผีนะ มีแต่ผีกลัวพระ กระผมก็พูดเรื่องบาป-บุญ เรื่องนรก-สวรรค์ ให้ผีฟัง แต่ผีพูดว่า ไม่รู้จักบุญหรอก รู้จักแต่ฆ่าๆ พร้อมทำท่าทางด้วยมือประกอบการฆ่าให้ดู กระผมพูดลงท้ายด้วยการสร้างพระธรรมกายประจำตัวที่มหาธรรมกายเจดีย์ ชวนผีทำบุญ ในที่สุดผียอมทำบุญด้วย จึงรวบรวมเงินได้จำนวนสองพันกว่าบาท คือ บอกคนโน้นคนนี้แล้วมาทำบุญด้วยกัน แล้วเขียนจองสร้างองค์พระไว้ก่อน
 
            กระผมก็บอกให้ผีที่เข้าสิงอนุโมทนาบุญ แต่ผีนั่งเฉยๆ เพราะทำไม่เป็น กระผมจึงสอนให้อนุโมทนาจึงทำเป็น กระผมก็ถามชื่อผี เพื่อจะกรอกชื่อ จะได้อุทิศบุญไปให้ แต่ผีบอกว่า เขาไม่ให้บอก กระผมพูดว่า ถ้าไม่บอก เวลาอุทิศบุญก็จะไม่ได้รับบุญ ในที่สุดผีจึงบอกว่า ชื่อ “ผง” โยมพ่อโยมแม่ทั้งหลายถึงกับร้อง อ๋อ ปู่ผงนี่เอง อดีตเคยเป็นหมอปราบผีในเขต ๔ ตำบล ถ้าผีเข้าคนไหนล่ะก็ ไปบอกคนอื่นไม่ยอมหาย แต่ถ้าบอกปู่ผงแล้วหาย ก็ถามนามสกุลต่อไป นามสกุลเดียวกับโยมแม่ของผมครับ แล้วถามอายุเท่าไร ผีบอก ๘๕ ปี ถ้ารวมกับตอนตายแล้วถึงปัจจุบันอายุประมาณ ๑๓๐ ปี
 
            กระผมเขียนใบสร้างพระเสร็จแล้ว ให้ผีอธิษฐานอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ให้ถวายคืนผม พอถวายเสร็จ ผีก็พูดว่า เย็นกายสบายใจดีมาก ยิ้ม และร้องรำทำเพลง มีแววตาสดใส มีแรงขึ้นมาก ผีพูดว่า ขณะนี้ที่โคกตูมภูน้อยกำลังมีการละเล่นตีกลองเถิดเทิงสนุกมาก คนก็มามากมาย (คนในที่นี้ หมายถึง ผีในภูมินั้น) ที่โคกตูมภูน้อยนี้เป็นดงป่าไม้ ชาวบ้านเชื่อกันว่า ที่นี่มีผีดุ ฆ่าคนตายมาแล้วหลายศพ ใครไปถางป่าทำไร่ทำสวนไม่ได้ ต้องตายทุกคน และทุกวันพระชาวบ้านจะได้ยินเสียงกลองดังเป็นประจำ
 
            โยมแม่เคยพูดว่า มีมีดจ่อคอ กระผมคิดว่า ผีคงเอามีดจ่อคอโยมแม่จริง และกระผมอยากจะให้ผีออกจากร่างโยมแม่ ตอนนั้นที่คอโยมแม่มีพระของขวัญอยู่ ๒ องค์ กระผมจึงเอาเพิ่มอีก ๑ พวง ประมาณ ๕ องค์ ผีบอกว่า กลายเป็นมีดอีโต้จ่อคอแล้ว กระผมจึงใส่เพิ่มอีก ๑ พวง รวมเป็น ๓ พวง ผีบอกว่ากลายเป็นมีดอีโต้เชือดคอขาดแล้ว พร้อมกับร้องเสียงหลงดังลั่น พร้อมกับเอามือจับคอตนเองนอนดิ้นแด่วๆ เหมือนคนถูกมีดเชือดคอจริงๆ กระผมคิดในใจว่า โยมแม่เราตายแน่เลย จนลืมคิดว่าเป็นผีเข้า จึงรีบเอาพระของขวัญออกจากคอทันที ๑ พวง โยมแม่ก็เอามือจับคอตนเองพูดว่า นึกว่าคอขาดแล้ว เหลือแค่มีดอีโต้จ่อคออยู่
 
            กระผมคิดว่า ที่ผีไม่ออกเพราะมีพระคล้องคอไว้ จึงให้ถอดออกให้หมด แล้วคล้องคอใหม่ ในที่สุดโยมแม่ก็นั่งคอตกก้มหน้าเงียบอย่างเดียว แล้วอาการก็ดีขึ้นจึงไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน ต่อมาผีก็ไม่มาอีกแล้ว
 
            เรื่องที่เกิดขึ้นกับโยมแม่นั้นเป็นผีจริงหรือเป็นอะไรครับ ถ้าเป็นผีจริง เป็นผีประเภทไหน ลักษณะเป็นอย่างไร ใช่ที่เรียกกันว่า ผีปอบ หรือไม่ เวลาโยมแม่พูดนั้นเป็นโยมแม่พูดจริงหรือว่าใครพูดครับ แล้วตอนนั้นวิญญาณโยมแม่อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ครับ
 
            แสงที่เหรียญพระปราบมารส่องตาโยมแม่นั้น ตลอดจนที่โยมแม่พูด เช่นพูดว่า ร้อนๆ หนาวๆ ไม่มีแรง มีมีดจ่อคอ มีมีดอีโต้จ่อคอ มีมีดอีโต้เชือดคอขาดนั้น เกิดจากอานุภาพอะไรครับ พระของขวัญรุ่นไหนครับ แล้วมีดเชือดคอใครครับ
 
            ปู่ผงตายแล้วไปอยู่ไหน ตอนมาเข้าสิงนั้นมาทำไม มากับใคร ผีอธิษฐานจิตตอนทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวว่าอย่างไรครับ
 
            ที่ดงป่าโคกตูมภูน้อยนั้นมีผีดุอยู่จริงไหมครับ และเป็นสถานที่มีผีอยู่มากจริงไหมครับ โยมแม่ทำกรรมอะไรมา และทำอย่างไรโยมแม่จึงจะไม่มีผีมาเข้า
 
ที่นี่มีคำตอบ:
            เรื่องที่เกิดขึ้นกับโยมแม่นั้นเป็นผีจริงๆ แต่คำว่า “ผี” นั้นมีความหมายกว้างมาก เพราะว่ามันรวมถึงกายละเอียดในระดับพื้นมนุษย์หลายๆ อย่าง คือ มีกายละเอียดเยอะแยะที่มนุษย์มักจะรวมเรียกว่า “ผี”
 
            สำหรับของโยมแม่นั้น เป็นผีที่อยู่ในสายการปกครองของท้าวเวสสุวัณโณ คือ สายยักษ์ แต่ก็ไม่ใช่ยักษ์ตัวดำ ตาโปน หัวหยิกอย่างที่เราเคยเห็นในภาพ ที่มาเข้าร่างโยมแม่นั้นจะมีลักษณะคล้ายๆ มนุษย์
 
            ผีปอบก็คือผีสายยักษ์ อยู่ในสายการปกครองของท้าวเวสสุวัณโณนั่นเอง ที่เข้าสิงร่างมนุษย์ ก็เพื่ออาศัยร่างมนุษย์กินอาหาร โดยเฉพาะอาหารดิบๆ หรือสัตว์เป็นๆ เช่น ไปหักคอเป็ดไก่ในเล้ากิน เป็นต้น
 
            ที่เข้าสิงร่างของโยมแม่หรือบางคนได้ เพราะมีวิบากกรรมทางนี้ คือ ไม่ได้เข้าสิงได้ทุกคน คนๆ นั้นต้องมีวิบากกรรมทางนี้ คือ ในอดีตชาติ บุคคลนั้นเคยนับถือผี เซ่นไหว้ผีเป็นสรณะที่พึ่งที่ระลึกยามที่มีทุกข์จนเป็นธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติกันมา โดยฆ่าสัตว์เซ่นผี บางทีก็ฆ่าสัตว์เล็ก เช่น เป็ด ไก่ บางทีก็ฆ่าสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย เป็นต้น ฉะนั้นจึงมีกรรมอยู่ ๒ อย่าง คือ
 
๑)  กรรมที่เคยนับถือผีพวกนี้เป็นชีวิตจิตใจ
๒)  กรรมทำปาณาติบาต คือ ฆ่าสัตว์เพื่อเซ่นไหว้ จึงทำให้พวกนี้มาเข้าร่างได้
 
โดยมีวัตถุประสงค์ คือ
๑. อาศัยร่างเพื่อกินอาหาร
๒. อาศัยร่างเหมือนเป็นร่างทรง เพื่อยกระดับตัวเองว่ามีผู้นับถือมาก
๓. เพื่อทำร้ายให้เจ็บป่วยหรือตาย เพื่อที่ว่าตายแล้ว จะได้ไปเป็นบริวารหรือสานุศิษย์ หรือตายแทน เพื่อตัวจะได้ไปเกิดใหม่   เป็นกฎเกณฑ์ของเผ่าพันธุ์พวกนี้ที่มีกรรมอย่างนี้
 
            เมื่อผีเข้าสิงร่างโยมแม่ เขาจะกดทับด้วยมนตร์ ทำให้ขาดสติ หรือหมดสติไป ขึ้นอยู่กับว่า ทับครึ่งตัว หรือว่าเต็มตัว ถ้าครึ่งตัว มันก็จะขาดสติ แต่พอรู้อยู่บ้าง แต่ว่าบังคับตัวเองไม่ได้ แต่ถ้าเต็มตัว จะหมดสติ คือ ลืมไปเลย
 
            ที่ผีสิงร่างโยมแม่บอกว่า เห็นแสงที่เหรียญปราบมารส่องตานั้น ผีเห็นจริงๆ ด้วยอานุภาพบารมีธรรมของมหาปูชนียาจารย์ที่ท่านทำวิชชาธรรมกาย ทำให้ผีรู้สึกอย่างนั้นและเห็นเป็นอย่างนั้น ซึ่งเหรียญปราบมารทุกรุ่นก็มีอานุภาพทั้งนั้น ถ้ามีใจเลื่อมใสอย่างแท้จริง
 
            ส่วนที่ผีเห็นเป็นมีดเชือดคอนั้น เป็นเพราะกรรมของผีเอง ที่เคยทำปาณาติบาตเอาไว้ ในลักษณะอย่างนี้ คือ ฆ่าเป็ด ฆ่าไก่ ฆ่าวัว ฆ่าควาย โดยการเชือดคอ บันดาลให้เห็นด้วยวิบากกรรม

            ผีที่มาเข้าสิงเป็นปู่ผงจริงๆ ที่ไปเกิดในสายยักษ์ ด้วยวิบากกรรมที่นับถือผี และก็ไม่ได้ทำบุญอะไร แถมมีกรรมปาณาติบาต ที่มาเข้าสิงเพราะต้องการเอาไปอยู่ด้วย เพื่อเอาไปเป็นบริวารของตน โดยเจตนาจะให้อดข้าวตาย
 
            ปู่ผงมากับลูกสมุนของผีที่เป็นหัวหน้า หรือยักษ์ประเภทที่เป็นหัวหน้า เพราะพวกนี้อยากได้สมาชิกเพิ่ม เหมือนนักเลงที่ต้องการมีพวกมากๆ แล้วก็มีการเชียร์กัน มีการฉลองถ้าใครสามารถหาสมาชิกใหม่มาได้ ก็จะฉลองตีกลองกันลั่น แล้วก็จะมีลุ้นระทึก คือ เข้าให้ได้ เข้าให้ได้ แล้วก็ถามกันจะเข้าได้ไหม สิงได้ไหม เพื่อจะให้เอาให้ได้ เอาเลย เอาเลย เอ้า เฮ เข้าไปเลย แล้วก็ร่ายเวทไปเรื่อย จะมีกองเชียร์ ซึ่งเป็นพวกนี้แหละ
 
            ตอนถวายพระประจำตัว ผีได้อธิษฐานว่า ขอให้มีอำนาจเหนือผีตัวอื่นๆ พูดง่ายๆ คือ อยากเก่ง ไม่ได้คิดจะไปเกิดบนสวรรค์หรือเกิดใหม่ เพราะกรรมยังหนาอยู่ จึงยังอยู่ในหมู่พวกนี้ มีความคิดวนๆ อยู่อย่างนี้ แต่อยากยกระดับตัวเองขึ้นเป็นหัวหน้ามาเฟียผี เป็นหัวหน้าเขตที่จะปกครองดูแลพวกนี้อีกทีหนึ่ง
 
            ที่ดงป่าโคกตูมภูน้อยเป็นหมู่บ้านผีพวกนี้ และปู่ผงก็อยู่ตรงนั้น โดยท้าวเวสสุวัณโณ ท่านก็สั่งให้หัวหน้าเขตต่อๆ กันลงมา กำหนดเขตให้หัวหน้าเขตตรงนี้ปกครองบริเวณตรงนี้ตามวิบากกรรม และตอนนี้ปู่ผงอธิษฐานอยากจะเป็นหัวหน้าแทน

            วิธีแก้ คือ ให้โยมแม่เลิกนับถือผี หรือเลิกแกล้งทำเป็นผีเข้าเพื่อขู่ลูกหลานตอนลูกหลานทำตัวไม่ดีแล้วก็ให้ตั้งมั่นในพระรัตนตรัย ให้ทำบุญทุกบุญ ทั้งทานศีลภาวนาให้สม่ำเสมอจนตลอดชีวิต ก็จะพ้นจากวิบากกรรมพวกนี้ได้
 
โดย คุณครูไม่ใหญ่
๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๗


พิมพ์บทความนี้







   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

พระศรีอริยเมตไตรย์
พระศรีอริยเมตไตรย์

พุทธประวัติ
ภาพพุทธประวัติ


ธรรมะเพื่อประชาชน

ดอกไม้บาน

ทอดผ้าป่าเขาแก้วเสด็จทุกวันเสาร์

Peace Photo
ภาพแห่งการสร้างบารมีเพื่อสันติภาพโลก

Meditation and Peace

อยู่ในบุญ

ปฏิทินบุญ

Free Wallpaper Download

Free Ecards

ตักบาตรพระ 1 ล้านรูป